Il Mare



อยากฟังเรื่องรักขลังๆไหม

คุณเชื่อใจผมหรือเปล่า........

______________________________________________________________

ที่เราต้องเจ็บปวดกับความรัก
ไม่ใช่เพราะมันจากไปหรอก
แต่เพราะมันยังคงอยู่ต่างหาก

ถ้าวันนี้คน 2 คน ต่างหมดรักกันไป
คงไม่มีใครต้องเสียใจมากนัก
แต่เป็นเพราะรักที่ยังอยู่ในใจคุณนั่นเอง

ที่ทำให้คุณปล่อยวางลงไม่ได้
ธรรมชาติของรักมักไม่ให้โทษกับใคร
เพียงแต่อาจจะปรุงแต่งให้หัวใจฟองฟู

จนลืมนึกถึงความจริงที่ว่า
มีวันที่รักมาก็มีวันที่รักไปได้
ความรักเป็นสิ่งสวยงาม
หลายคนจึงอดหลงใหลได้ปลื้มกับมันไม่ได้

ในยามที่มันอยู่      เรามักหลอกตัวเองว่า
เพราะเรารักเขามาก      เขาคงเห็นความดี
ความตั้งใจของเรา และรักเราตอบบ้าง  ไม่มากก็น้อย...

และเมื่อเขาตอบรักของเรา
ความฟูของหัวใจมักทำ..   ทำให้เราก้าวล่วงไปถึงการยึดมั่น
ว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรา
เป็นเหมือนทรัพย์สินส่วนตัวทางใจอย่างหนึ่ง
ที่จะต้องอยู่กับเราทุกครั้งที่เราต้องการ  นานเท่าที่เราปรารถนา

ความรู้สึกอันนี้แหละเป็นจุดเริ่มของ
ความเจ็บปวด    ทั้งมวล
เพราะมันฝืนกฎธรรมชาติ
ไม่ได้บอกว่ารักต้องลงเอยด้วย    ความเศร้าเสมอไป...

เพียงแต่ เขาจะอยู่...เขาจะไป...จะรักคุณมากขึ้น
คงเดิมหรือลดน้อยถอยลง
ก็จะเป็นเพราะคน 2 คน
ไม่ใช่ความต้องการของเราฝ่ายเดียวหรือเขาฝ่ายเดียว

ชีวิตเป็นเรื่องซับซ้อนเข้าใจยาก
แต่   ในความซับซ้อนนั้น    มันก็เรียบง่ายอย่างที่เรานึกไม่ถึง
เพราะไม่ว่าสิ่งไหนหรือเรื่องอะไรสารพัน
ทุกอย่างล้วนอยู่ในกฎเดียวกัน

มันจะเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แปรสภาพแล้วก็จบลง
รักที่สมหวังอยู่กันจนแก่เฒ่า
ก็หนีไม่พ้นกฎข้อนี้

เพราะวันหนึ่งไม่เราก็เขาก็ต้องต้องตายจากกัน
สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า..
วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่าช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี
ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อยเราก็ยังมีอะไรดีๆให้เรานึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้

ถึงวันนี้จะร้องไห้ก็คงไม่กระไร
เพราะชีวิตก็เป็นแบบนี้
มีวันที่เลวร้าย..มีวันที่สวยงาม...มีวันที่ว่างเปล่า

สุขก็อยู่กับเราไม่นาน
ทุกข์ก็อยู่กับเราไม่นาน
สุขเคยแวะผ่านมาแล้วก็ไป
ทุกข์ก็เป็นเฉกเช่นเดียวกัน

ร้องไห้แล้วก็อย่าร้องเปล่าๆมอง....ให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตด้วย

_____________________________________

ปาฏิหาริย์ของความรักก็เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลหรือที่มาที่ไป ทุกอย่างกลับสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง และครั้งนี้ เขาและเธอจะเดินไปด้วยกัน ในเวลาของปัจจุบัน โดยไม่มีอะไรมากั้นขวางได้อีก

เพอร์ซีย์ แจ็กสัน



เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับ อาถรรพ์ทะเลปีศาจ  ...

ยักษ์ไซคลอปส์  ลักษณะท่าทาง มีดาวงตาสีน้ำตาลลูกวัวดวงโต ดวงเดียวอยู่ตรงกลางหน้าผาก  ทั้งยังมีขนดาหนาดก และมีน้ำตาหยาดใหญ่ๆ ไหลลงมาจากแก้มทั้งสอง
ยักษ์ตาเดียวสองชนิด โดยชนิดแรกเป็นลูกของเจ้านภา ยูเรนัสและพระแม่ธรณี ไกอา ซึ่งไซครอปส์จำพวกนี้มีเด่นๆ3ตน คือ อาจีรอส บรอนทีส และสเตอร์โรพีท มักจะถือค้อนอันใหญ่ มีพลังแห่งสายฟ้า และมีฝีมือในด้านช่างเหล็ก ไซคลอปส์กลุ่มนี้ถูกยูเรนัสกักขังไว้ในทาทารัส จนกระทั่งซุสปลดปล่อยออกมาหลังจากที่โค่นโครนัสผู้เป็นบิดา ซึ่งไซคลอปส์ได้ตอบแทนโดยตีอาวุธต่างๆให้เหล่าเทพ ได้แก่ สายฟ้า thunderbolt ให้แก่ ซุส สามง่ามหรือตรีศูร ให้แก่ โพเซดอน หมวกล่องหน ให้แก่ ฮาเดษ และเหล่าไซคลอปส์ได้เป็นลูกมือของเทพแห่งช่างเหล็กเฮฟเฟสตุสในเวลาต่อมา จนกระทั่งถูกอพอลโลสังหารเพื่อล้างแค้นให้แอสคิวลาปิอัสที่ถูกซุสใช้สายฟ้าฟาด

ไซคลอปส์กลุ่มที่สองเป็นลูกหลานของโพเซดอนและพรายน้ำโทซา ไซคลอปส์กลุ่มนี้กินมนุษย์เป็นอาหาร

…………………………………………………….

ไทสัน (ยักษ์ไซคลอปส์)  กำลังมีปัญหากับการควบคุมม้าของเพอร์ซีย์ แจ็กสัน   ,  เพอร์ซีย์ ต้องพูดอยู่นานกว่าพวกมันจะยอมสงบลง
                “เขาเป็นอสุรกายนะ !  นายท่าน”   พวกม้าบ่นกับเพอร์ซีย์
                “เขาเป็นบุตรของโพไซดอน”  เพอร์ซีย์บอกกับพวกม้า  “ เหมือนกับ...เอ่อ..เหมือนกับฉันนี้แหละ
                “ ไม่”    พวกม้ายืนกราน    “ อสุรกาย!    ตัวกินม้า !   ไว้ใจไม่ได้ !
                “ฉันจะให้พวกนายกินน้ำตาลก้อนหลังจากการแข่งขัน” เพอร์ซีย์บอก
                น้ำตาลก้อนเหรอ ?    น้ำตาลก้อนโต  แล้วก็แอปเปิ้ล  นี้ฉันพูดถึงแอปเปิ้ลไปหรือยัง”
                ในที่สุดพวกมันก็ยินยอมให้เพอร์ซีย์ แจ็กสัน ใส่อานและบังเหียน 

แท้ที่จริงแล้ว  ใช่คำว่า “พวก” จะถูกไหมนะ ... เกี่ยวกับพวกยักษ์ไซคอลปส์ อันนี้ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  พวกยักษ์ไซคลอปส์ที่ทุกคนต่างเห็นว่า เป็นพวกปลิ้นปล้อน  ชอบหักหลัง   และแท้ที่จริงแล้วพวกยักษ์ พวกมันเป็นยังไง-ต้องเหมารวมทุกตัวเหมือนกัน ทั้งหมดเลย...รึ  หรือว่า ............ ?

วงกลม




ชีวิตบางช่วงที่เกี่ยวกัน เราได้แลกเปลี่ยนซึ่งความฝัน
หลายครั้งหลายหน...หัวใจไม่ตรงกัน แต่รู้กันต่างคนมีน้ำใจ

เธอไม่ต้องนวลอย่างดวงจันทร์   และฉันไม่ใช่ดวงตะวันฉาย
เราเพียงเป็นคน คบกันตามสบาย    เมื่อร้างไกลห่วงใยก็แล้วกัน

ไม่สำคัญ...ว่าเธอมีใคร      ไม่ใช่กงการอะไรของฉัน  
ไม่สนใจเมื่อเธอสุขสันต์   ขอรู้เพียงวันที่เธอไม่มีใคร

ยังไม่ประคองถ้าเธอล้ม ถ้าเธอลุกขึ้นยืนได้เองไหว    ขอรู้....ขอเห็นว่าเธอเดินเองได้
จะขอมองดูไกลๆ  อย่างชื่นชม


ไม่สำคัญ....ว่าเธอมีใคร ไม่ใช่กงการอะไรของฉัน       ต่างหนทางของต่างเรานั้น
ถึงแม้ว่าเราจะไกลซักเพียงไหน………………

ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง

ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง

ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง

ไม่รักแต่คิดถึง ไม่รักแต่คิดถึง...